ด้านการปกครอง
ระบบฟิวดัลเป็นรากฐานการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ซึ่งเป็นรูปแบบของการปกครองท้องถิ่นของดินแดนต่างๆ ในยุโรป นอกจากนี้เมื่อระบบฟิวดัลล่มสลาย กษัตริย์สามารถสถาปนาอำนาจทางการเมืองได้อย่างมั่นคง ทำให้เกิดการสร้างรัฐชาติและพัฒนาเป็นประเทศในเวลาต่อมา
ด้านสถาปัตยกรรม
สถาปัตยกรรมในสมัยฟิวดัลสะท้อนอยู่ในปราสาทหรือคฤหาสน์ของลอร์ด ที่เป็นศูนย์กลางในแมนเนอร์ ซึ่งในระยะแรกรับอิทธิพลจากสิ่งก่อสร้างของโรมันที่ให้ความรู้สึกมั่นคง แข็งแกร่ง สำหรับเป็นที่อยู่อาศัยและป้องกันศัตรูที่มารุกรานได้
ต่อมาในราวคริสต์ศตวรรษที่ 11 ลักษณะของสถาปัตยกรรมเป็นศิลปะแบบโกธิค ที่มีความอ่อนช้อยงดงามมากขึ้น ส่วนสถาปัตยกรรมทางศาสนานิยมสร้างโบสถ์ขนาดใหญ่ที่สง่างาม เช่น มหาวิหารโนเทรอดามในฝรั่งเศส มหาวิหารเซวิญาในสเปน
ด้านเศรษฐกิจและสังคม
ในช่วงปลายระบบฟิวดัล เศรษฐกิจมีการขยายตัวสูงขึ้นมาก ทำให้เกิดชนชั้นกลางซึ่งเป็นกลุ่มพ่อค้าและพวกช่าง เรียกว่า
ชนชั้นกระฏุมพี หมายถึง ชนชั้นที่เป็นอิสระไม่อยู่ในระบบแมนเนอร์แล้ว ได้รวมตัวกันจัดตั้งสมาคมช่างฝีมือหรือสมาคมอาชีพเพื่อพัฒนาแรงงานและคุณภาพสินค้า ซึ่งมีบทบาทสำคัญในสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ นอกจากนี้ที่ดินของขุนนางได้เปลี่ยนมาเป็นที่ดินของนายทุน ส่งผลให้การเกษตรกรรมเปลี่ยนแปลงการผลิตใหม่มาเป็นการส่งออกตลาดแทน มรดกทางวัฒนธรรมของระบบฟิวดัลที่มีต่อยุโรปคือตำแหน่งขุนนาง เช่น ดุ๊ก เคานส์ บารอน เอิร์ล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น